ไฟตัดหมอกควรใช้อย่างไร? ถึงจะมีประโยชน์
บนหน้าปัดรถมีไฟเตือนหลายอย่างต่างความหมายกันไป แต่รูปไฟเขียวส้มที่เราเห็นบ่อยนั้นมันคืออะไรใช้ตอนไหนบ้าง วันนี้ #ไมค์คาร์ แกลเลอรี่ จะพาเพื่อน ๆ มาหาคำตอบกัน
เราอาจจะได้ยินกันบ่อยครั้งกับคำว่าไฟตัดหมอก บางคนติดตั้งเพิ่มหรือรถบางคันก็มีติดมาจากโรงงาน บางท่านเข้าใจว่าเป็นของแต่ง จริง ๆ จะนับเป็นของแต่งก็ได้แต่ก็ต้องใช้งานให้ถูกต้องด้วยเช่นกัน
ใช้ไฟตัดหมอกตอนไหน
บ้านเราโอกาศที่จะได้เห็นหมอกคงน้อยมากดังนั้น สิ่งที่เราจะได้ใช้ไฟตัดหมอกก็คงเหลือแค่
1. ฝนตกหนัก เป็นสิ่งที่ควรทำ จะทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเวลาฝนตกหนักจนไม่เห็นทางบางท่านยังเข้าใจว่า "เปิดไฟฉุกเฉิน" ซึ่งผิดมาก เพราะชื่อก็บอกแล้วว่าไฟฉุกเฉิน ไม่ใช้ไฟฝนตก
2. ขับผ่านกลุ่มควันหนา ซึ่งบ้านเราตามต่างจังหวัดจะพบเห็นได้เยอะซึ่งอันตรายมาก เราจะมองไม่เห็นรถคันหน้าด้วยกลุ่มควันไฟจากการเผาหญ้าที่หนาทึบ ดังนั้นเราควรจะขับไปอย่างช้า ๆ "ห้ามจอดเด็ดขาด"
3. หมอกหนา อันนี้คงไม่ต้องกล่าวอะไรกันมาก เพราะมัน เป็นชื่อที่ใช้เรียกกันอยู่แล้ว หมอกหนาพบได้ตามสถานที่ที่อากาศเย็นหนาว ตามภูเขาสูง ทัศนวิสัยที่เห็นได้ไม่ชัด
ไฟตัดหมอกหลัง
ตามประมวลกฎหมายจราจรทางบก แก้ไขปี พ.ศ. 2536 ไฟตัดหมอกที่ติดตั้งในรถยนต์นั้น สามารถใช้งานได้ก็ต่อเมื่อรถวิ่งอยู่ในสภาวะที่มีหมอก ควัน หรือฝุ่นละอองจนเป็นอุปสรรค อันอาจเกิดอันตรายในขณะขับรถและต้องไม่มีรถอยู่ด้านหน้า หรือสวนมาในระยะของแสงไฟ หรือในระยะ 150 เมตร โดยสามารถใช้หลอดไฟแสงขาวหรือแสงเหลือง ที่มีกำลังไฟไม่เกินดวงละ 55 วัตต์ เท่านั้น
โดยบทของโทษจากการกระทำผิดในการใช้ไฟตัดหมอก หากตรวจพบ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการจับปรับเป็นเงิน 500 บาท
บทความอื่นที่ใกล้เคียง
เพราะรอยยิ้มของคุณ คือความสุขของเรา