บทความต้องรู้

เพราะรอยยิ้มของคุณ คือความสุขของเรา

5 วิธีดูแลรถยนต์สีดำ

14/มิ.ย./2566

1. ฉีดน้ำก่อนล้าง

                ก่อนที่จะเริ่มลงมือล้างรถ ควรฉีดน้ำไล่เศษดิน ทราย ออกก่อน โดยฉีดอัดเข้าไปแรง ๆ หน่อยครับ จนมั่นใจว่าเศษดินทรายที่เกาะสีรถออกจนหมด จากนั้นค่อยล้างด้วยแชมพูล้างรถ

 

2. ใช้ฟองน้ำแยก

                เวลาล้างรถสีดำ ฟองน้ำที่จะใช้สัมผัสกับสีรถ ควรเป็นฟองน้ำของใหม่ หรือต้องมั่นใจว่าเป็นฟองน้ำที่สะอาด ไม่มีเศษดิน ทราย ฝังอยู่ เพราะจะทำให้รถเกิดรอยได้ ยิ่งรถสีดำ หากเกิดรอยจะเห็นได้ชัดเจนมาก โดยใช้ฟองน้ำอย่างน้อย 2อัน อันนึงใช้สำหรับถูชิ้นส่วนที่เป็นสี ส่วนอีกอันเอาไว้ใช้สำหรับถูชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่สกปรกมาก ๆ เช่น ล้อ ซุ้มล้อ ช่วงล่าง

                อาจสงสัยว่าทำไมถึงต้องใช้ฟองน้ำแยก ระหว่างสีรถ และชิ้นส่วนอื่น ๆ เหตุผลคือ พวกล้อ ซุ้มล้อ ช่วงล่าง จะมีเศษดิน ทรายที่เยอะมาก มีโอกาสที่เศษเหล่านั้นอาจฝังเข้าไปในฟองน้ำ และเมื่อนำไปถูส่วนที่เป็นสี ก็จะทำให้รถเกิดรอย

                หรืออีกวิธีนึง คือใช้ฟองน้ำแค่อันเดียว แต่ถูส่วนที่เป็นสีให้เสร็จก่อน จากนั้นค่อยนำฟองน้ำไปถูชิ้นส่วนอื่น ๆ และเมื่อใช้เสร็จ ห้ามนำไปใช้ถูสีรถอีกเด็ดขาด

 

3. ห้ามใช้ไม้ขนไก่

                อย่าใช้ไม้ปัดขนไก่ปัด หลายคนไม่ชอบที่จะเห็นรอย หรือคราบฝุ่นผงแม้แต่เพียงเล็กน้อย และวิธีที่อยากกำจัดสิ่งขวางหูขวางตาเหล่านั้นก็คือการหาไม้ขนไก่มาปัดเช็ดถูให้สะอาด ด้วยความคิดที่ว่าคราบเหล่านั้นจะหลุดออกไปจากรถ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจถูกแต่เป็นวิธีการที่ผิด การใช้ไม้ขนไก่มาทำวามสะอาดรถนั้นจะยิ่งทำให้เกิดรอยขนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ยิ่งกับรถสีดำด้วยแล้วล่ะก็จะขึ้นรอยให้เห็นได้ชัดมาก ๆ รอบสกปรกที่ปัดกวาดไปก่อนหน้าหายไปก็จริง แต่จะถูกแทนที่ด้วยรอยสกปรกรอยใหม่ที่ยิ่งเช็ดก็ยิ่งชัด แนะนำให้ฉีดน้ำล้างตัวรถจะดีกว่านะครับ

 

4. เคลือบสี

                จะรถเก่าหรือรถเพิ่งถอยมาใหม่ ควรลงแว็กซ์เคลือบสีอย่างสม่ำเสมอ อาจจะเป็นอาทิตย์ละครั้งก็ได้ ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย แถมยังช่วยให้ฝุ่นจับรถได้ยากด้วย ส่วนแว็กซ์ที่จะใช้ควรเป็นแว็กซ์ที่มีคุณภาพหรือเหมาะสำหรับรถสีดำโดยเฉพาะ การเคลือบแก้ว เป็นวิธีการที่ได้ผลดีเป็นอย่างมาก และหลายคนที่รักรถก็ยอมจ่ายในขั้นตอนนี้ เพราะการเคลือบแก้วจะช่วยให้รถดูเงา แวววาวขึ้น อีกทั้งยังล้างสิ่งสกปรกออกได้ง่ายขึ้น ช่วยป้องกันการเกิดรอยขนแมวได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งวิธีนี้ไม่จำเป็นต้องทำบ่อย ๆ เคลือบเพียงครั้งเดียวก็อยู่ได้นานเป็นปี ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของน้ำยาด้วย การเคลือบแก้วแม้จะมีค่าใช้จ่ายที่สูง แต่ก็เป็นวิธีที่ช่วยถนอมสีรถอย่างได้ผล อีกทั้งช่วยป้องกันรถจากรังสี UV อีกด้วย แต่ขอยืนยันว่าแม้จะราคาสูงแต่การันตีคุณภาพ อยากให้รถสีดำของคุณคมเข้ม เงาเป็นประกาย ทางเลือกที่คู่ควรการลงทุนนี้จะตอบโจทย์คุณได้เป็นอย่างดี กรณีที่รถสีดำมีรอยขนแมวบาง ๆ ให้ขัดสีรถเพื่อลบรอยเป็นการลอกชั้นแว็กซ์เก่าออกก่อน พื้นผิวจะได้เรียบสม่ำเสมอ และให้ลงแว็กซ์เคลือบสีรถซ้ำอีกครั้ง เพื่อให้รอยนั้นหายไป

 

5. ทำความสะอาดรถยนต์

                หมั่นทำความสะอาดรถอยู่เสมอ ล้างและเช็ดให้แห้ง ถือว่าเป็นวิธีเบื้องต้นในการดูแลรถสีดำของคุณให้เงางามได้ตลอดเหมือนกัน เพราะรถสีดำแค่ขับเส้นทางสั้น ๆ ทั้งฝุ่น ทั้งเขม่าควัน ก็มาเกาะได้แล้ว

 

                สีดำเป็นสีที่ให้ความรู้สึกทรงพลัง ดุดัน และมีความหนักแน่น เช่นเดียวกันหากไม่ดูแลและปล่อยให้เกิดคราบสกปรก ปล่อยให้รถซีดหมองฝุ่นละอองจับจากรถหรูดูมีราศี  แม้จะแพงแค่ไหนก็กลายเป็นรถที่ไม่น่าพิสมัยได้ในเวลาเดียวกัน เชื่อว่าทุกคนย่อมรักและหวงแหนรถของตัวเอง ดังนั้นควรหมั่นดูแลรถของคุณให้ดูดีเหมือนใหม่นอกจากจะช่วยให้รถสะอาด ดูมีราคาแล้ว ความสวยงามเหล่านั้นยังเสริมให้คนขับมีภาพลักษณ์ที่ดีไปด้วยเช่นกัน

บทความอื่นที่ใกล้เคียง

เพราะรอยยิ้มของคุณ คือความสุขของเรา

ไส้กรองอากาศ ตรวจเช็กง่ายๆ ด้วยตัวเอง

ไส้กรองอากาศ มีหน้าที่ เปรียบเสมือนจมูกของคนเราเนี่ยแหละค่ะ หากสูดอากาศที่มีแต่เศษฝุ่นเข้ามาก ๆ ก็ไม่ดีต่อร่างกาย ไส้กรองอากาศจะค่อยดักจับฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าไปภายในเครื่องยนต์ ซึ่งเมื่อใช้งานไปนาน ๆ อาจจะทำให้เกิดการอุดตัน อากาศผ่านเข้าไปในกระบอกสูบได้น้อยลง และทำให้การเผาไหม้ในห้องเครื่องยนต์ไม่สมบูรณ์ อายุการใช้งานของไส้กรองอากาศจะสั้นหรือยาว ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละบุคคล และสภาพแวดล้อมเป็นหลัก โดยปกติทางบริษัทรถยนต์ กำหนดให้เราเปลี่ยนไส้กรองอากาศทุก ๆ 20,000-40,000 กิโลเมตร

วิธีการเลือกรถยนต์มือสอง

ในยุคสมัยปัจจุบันนี้การจะออกรถยนต์ใหม่ป้ายแดงสักคัน อาจเป็นปัญหาใหญ่สำหรับใครหลายๆคนเนื่องจากเราทุกคนก็คงไม่ยากจะเพิ่มภาระให้ตัวเองในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ผู้คนส่วนใหญ่จึงหันมามองที่ตลาดรถยนต์มือสอง เพราะว่าในราคาที่เท่ากันเราสามารถที่จะซื้อรถยนต์มือสองยี่ห้อเดียวกันรุ่นที่เหนือกว่ารถยนต์ป้ายแดงยี่ห้อเดียวกัน หรือ สามารถที่จะซื้อรถยนต์รุ่นเดียวกันในราคาที่ต่ำกว่า แต่ก่อนที่เราจะตัดสินใจซื้อเราควรมาทราบถึงวิธีการเลือกรถยนต์มือสองที่จะทำให้เราได้รถยนต์มือสองที่สภาพดีและคุ้มค่ากับราคาและลดปัญหาที่จะพบเจอจากรถยนต์มือสองที่เราตัดสินใจซื้อ โดยขั้นตอนในการเลือกและตรวจสอบรถยนต์มือสองมีตามขั้นตอนดังนี้

ลมยางรถยนต์ควรเติมเท่าไหร่จึงจะดีที่สุด

รถแต่ละประเภทหรือแต่ละรุ่นเติมแรงดันลมยางไม่เท่ากัน จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาดเลยนะคะ แรงดันลมยางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเติมลมยางรถเก๋งนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 30-32 PSI (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) สำหรับล้อหน้าและล้อหลัง แต่ถ้าหากต้องบรรทุกน้ำหนักมาก เช่น กรณีที่มีผู้โดยสารเต็มทั้ง 5 ที่นั่ง หรือบรรทุกของด้านหลังจนเต็ม อาจเพิ่มปริมาณการเติมได้ถึง 33-35 PSI เนื่องจากน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนแรงดันลมยางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับรถกระบะนั้นจะค่อนข้างใช้ลมยางที่มากกว่ารถเก๋งโดยสารตามปกติ โดยสำหรับล้อหน้าแรงดันยางจะอยู่ที่ประมาณ 36-38 PSI และล้อหลังที่ 40-42 PSI แต่ถ้าหากบรรทุกของเต็มท้ายรถ ก็สามารถเพิ่มปริมาณการเติมลมเพื่อรองรับน้ำหนักได้มากถึง 47-51 PSI เลยทีเดียวค่ะ

scroll up